วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ซึนาเดะ


ซึนาเดะ

หลานสาวของของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ลูกศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 3และ เป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ หลังจากที่ซึนะเดะสูญเสียน้องชายและแฟนในช่วงสงครามนินจา ซึนาเดะได้ชื่อว่าเป็นแพทย์นินจาที่เก่งที่สุดในดินแดนนินจา ภายหลังสงครามนินจาจบ ซึนาเดะจึงได้ออกจากหมู่บ้าน และได้ใช้เวลาของตัวเองไปกับการพนัน(เล่นไม่เก่งเลยชอบยืมเงินเค้าไปเล่นพนันแล้ว ชิ่งหนีเอาดื้อๆ จึงต้องแปลงกายเป็นคนอายุ20บ้าง10กว่าๆบ้าง35บ้าง เพื่อหนีหนี้ที่เขาตามเก็บ)จึงมีฉายาว่า "มงกุฎในตำนาน" ซึ่งมงกุฎดังกล่าวมาจากคำว่า 'สิบแปดมงกุฎ" มีผู้ติดตามคือชิซึเนะสูง180 ซ.ม.หนัก43กก. (บ้างก็ว่าสูง 163 ซม. หนัก 48 กก.)

ซึนาเดะเป็นนินจาที่แข็งแกร่งมากในด้านพลัง มีจักระ พลังช้างสารของซึนาเดะสามารถ ทำลายกำแพงหรือทำดินให้แตกเป็นหลุมด้วยการอัดหรือฟาดเท้าเพียงครั้งเดียว (เธอยังแรงโคแรงกระบือสุดๆ)และเป็นนินจาแพทย์ที่ไม่มีวันตาย เธอสามารถชุบชีวิตตัวเองกี่ครั้งก็ได้ในการต่อสู้ และยังมีผนึกอักคระที่สามารถเปลียนมาเป็นการฟึ่นฟูสภาพ ตัวเองได้ด้วย แต่การชุบชีวิตและฟื้นฟูตนเองนั้น จะมีผลข้างเคียง ทำให้อายุสั้นลงเรื่อยๆ ภายหลังจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต จิไรยะและนารูโตะ ได้ออกตามหาตัวซึนาเดะ เพื่อให้กลับมาเป็นโฮคาเงะของหมู่บ้านโคโนฮะและรักษานินจาที่บาดเจ็บจากการ ต่อสู้กับหมู่บ้านซึนะกับโอเตะ ในขณะเดียวกันโอโรจิมารุ ผู้สังหารโฮคาเงะรุ่นที่ 3 มีบาดแผลที่มือไม่สามารถใช้วิชานินจาได้ และต้องการให้นินจามือดีก็คือซึนาเดะรักษาให้ โดยโอโรจิมารุให้ข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรักษา โดยใช้คาถาต้องห้ามที่คิดขึ้นมาช่วยรักษาน้องชายและชายผู้เป็นที่รัก (แฟน)แต่ซึนาเดะตัดสิ้นใจไม่ได้โอโรจิมารุให้เวลา 1 อาทิตร์ในการตัดสิ้นใจ หลังจากที่ปฏิเสธซึนาเดะ จึงทำให้เกิดการต่อสู้กันโอโรจิมารุแต่โอโรจิมารุก็ไม่ชนะจึงกลับไป เพราะจีไรยะ นารุโตะ และชิซึเนะ มาช่วยไว้ ซึนาเดะได้กลับมาหมู่บ้านรับตำแหน่งโฮคาเงะรุ่นที่ 5 และได้กลับมารักษา ลี คาคาชิ และซาซึเกะที่บาดเจ็บจากการต่อสู้หลังจากที่โฮคาเงะรุ่นที่ 3 เสียชีวิต แม่แบบ:จบ ส่วนที่เสียอรรถรส

จิไรยะ


จิไรยะ

อดีตศิษย์ของ โฮคาเงะรุ่นที่ 3(ชารุ โทบิ) พร้อมกับ โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ที่ซึ่งรู้จักในชื่อ สามนินจาในตำนาน จิไรยะเป็นอาจารย์โดยตรงของ โฮคาเงะรุ่นที่ 4และ ยังเป็นอาจารย์ชั่วคราวให้กับเพนและโคนัน(แสงอุษา) จิไรยะ รู้จักในชื่อ "เซียนกบ" เขาชอบท่องเที่ยวผจญภัย ในระหว่างการเดินทาง เขาได้แต่งหนังสือ สวรรค์รำไร หรือ อะจึ๋ยสวรรค์รำไร และได้ฉายาว่า "เซียนลามก" หรือ "ตาเซียนลามก"

ในวัยเด็ก จิไรยะเป็นเกะนินโดยมีอาจารย์คือ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หลายปีผ่านไปจากเหตุการณ์ที่ โอโรจิมารุถอนตัวออกจากหมู่บ้าน เขาก็เริ่มออกเดินทางเช่นกัน เขาออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของเขา ขณะที่เขาเดินทางเขาก็แต่งหนังสืออ่าจึ๋ยๆ ไปด้วย เมื่อจิไรยะกับมายังโคโนฮะอีกครั้ง นารูโตะได้ใช้คาถายั่วยวนจิไรยะ(คาถามหารั่น จวน) จนจิไรยะทนไม่ไหวและเขาก็ได้ และได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนารูโตะพร้อมทั้งสอนทักษะระดับโฮคาเงะต่างๆ ให้กับนารูโตะ จนกระทั่งเขารู้สึกทึ่งกับความสามารถที่นารูโตะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จิไรยะได้ทำสัญญาเลือดกับ กบแดง กามะบุนตะ

จิไรยะมีงานอดิเรกคือแอบดูผู้หญิงอาบน้ำเป็นประจำ แม้แต่ในขณะที่นารูโตะกำลังลำบาก (สำหรับเป็นข้อมูลในหนังสือสวรรค์รำไร)

หลังจากทีม"งู"ของซาสึเกะ และทีมโคโนะฮะได้ออกเคลื่อนไหวเพื่อหาตัวอุจิวะ อิทาจิ จิไรยะได้ลักลอบเข้าหมู่บ้านอาเมะ งาคุเระได้สำเร็จ เขาได้ต่อสู้กับเพน หรือ นางาโตะ ซึ่งมีถึง 6 ร่าง โดยครั้งนี้เขาได้เผยร่างเซียนออกมาสู้กับเพน และในขณะที่ได้รู้ถึงร่างจริงของเพน เขาก็ได้โดนเพนโจมตีจนแขนขาดและตัวตายในที่สุด แต่จิไรยะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเพนก่อนจะสิ้นลมหายใจไป ซึนาเดะและจิไรยะได้นั่งพูดคุยในเรื่องอดีตกัน ซึนาเดะบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเป็น โฮคาเงะ เพราะโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เคยบอกไว้ว่าคนที่จะเป็นโฮ คาเงะคนต่อไปคือ จิไรยะนั่นเอง สุดท้าย จิไรยะถูกเพนฆ่าตายในนารูโตะชิปปุเด็นตอนที่ 133

กาอาระ


กาอาระ

เกิดมาพร้อมกับซูคาคุ ปีศาจในร่างกาย โดยพ่อ คาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 และผู้เฒ่าคนอื่นในหมู่บ้านทำพิธีไว้ เพื่อให้กาอาระโตขึ้นมาเป็นอาวุธสำคัญให้กับหมู่บ้าน กาอาระเป็นลูกชายคนสุดท้ายของคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 โดยมีพี่น้องไม่แท้คือ เทมาริ และ คันคุโร่


ในชีวิตกาอาระช่วงเด็กเชื่อมั่นเสมอว่าแม่รักเขา แต่เมื่อวันหนึ่งน้องชายของแม่เขาได้รับคำสั่งจากคาเสะคาเงะรุ่นที่4 (พ่อของกาอาระ) ให้มาลอบสังหารเขา แต่ด้วยความที่กาอาระมี "ซูคาคุ" อยู่ในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้และได้ทราบความจริงจากปากน้าของเขาว่า แท้จริงแล้วแม่ไม่ได้อยากให้เขาเกิดมา ทำให้ในต่อมาเขากลายเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงไม่มีความรักให้กับใคร มีแต่ความเกลียด และฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา ชะตาชีวิตของเขาก็เหมือนนารูโตะ (ตัวเอกของเรื่อง) คือการที่มีสัตว์หาง (บิจู) อยู่ในร่างกายทำให้กาอาระมีความสามารในการใช้ทรายแต่ก็แลกมาด้วยการที่คนอื่นตั้งแง่รังเกลียด บางคนก็กลัวเขา เขาต้องการให้คนอื่นยอมรับตัวตนของตัวเองให้ได้แต่ในเมื่อไม่มีใครรับได้ เขาจึงฆ่าทำให้ผู้คนหวาดกลัว จนกระทั่ง ได้พบกับนารูโตะที่มีชะตาชีวิตเหมือนๆกัน และได้เข้าใจถึงคำว่ามิตรภาพ ท้ายสุดแล้วกาอาระได้สืบทอดตำแหน่ง คาเซะคาเงะ (เงาลม) จากพ่อของเขาและทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด โดยการสละกระทั่งพลังสุดท้ายเพื่อปกป้องหมู่บ้านของเขา (ซึนะงาคุเระ) จากระเบิด แต่ด้วยกลอุบายของเดอิดาระที่ได้วางแผนโดยที่ใช้คาถาระเบิดขณะที่กาอาระปิด โล่กำบังโดยเคี้ยวดินเหนียวผสมกับทรายที่ใช้ทำลายแขนของตนโดยปั้นเป็นสัตว์ ภายในโล่กำบังทรายของการอาระ โดยคาถาระเบิดทำให้กาอาระบาดเจ็บอย่างหนัก แม้เพียงจักระที่เหลือเพียงขั้นสุดท้ายก็ยังเบี่ยงทรายที่ตัวเองใช้ปกป้อง หมู่บ้านออกไปไม่ให้ตกมาทำลายหมู่บ้านของตน แล้วโล่กำบังทรายก็พังทลายจนกาอาระล่วงล่นลงมาแล้วถูก แสงอุษา (เดอิดาระ) จับตัวไป

ฮาตาเกะ คาคาชิ


ฮาตาเกะ คาคาชิ

เป็นนินจาระดับโจนินแนวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะ อดีต เคยเข้าสังกัดนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ) ซึ่งมีฉายาว่า "เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" ซึ่งเป็นหนึ่งนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ ได้รับเนตรวง แหวนจากอุจิวะ โอบิโตะเพื่อนร่วม ทีม มอบให้ก่อนจะเสียชีวิต โดยได้รับการผ่าตัดจากฮารุโนะ รินในระหว่างภารกิจ ฮาตาเกะ คาคาชิ สูง 181 เชนติเมตร หนัก 67.5 กิโลกรัม

จบการศึกษาที่โรงเรียนนินจา เมื่ออายุ 5 ปี เลื่อนขั้นเป็นจูนิน เมื่ออายุ 7 ปี เลื่อนขั้นเป็นโจนิน เมื่ออายุ 13 ปี คาถาที่ถนัด พันปักษา (คาคาชิเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง) อาหารที่ชอบ ซุปมิโซะ ปลาทะเลเผาโรยเกลือ อาหารที่เกลียด ของทอดทุกชนิด (โดยเฉพาะเทมปุระ) กับ ของหวาน หนังสือเล่มโปรด อะจึ๊ย (หนังสือที่จิไรยะเขียนโดยดูผู้หญิงอาบน้ำ)


คาคาชิเป็นศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 (ซึ่งเป็นคนผนึกจิ้งจอกเก้าหางไว้ในตัวของนารูโตะ) เพื่อนร่วมทีมคือ อุจิวะ โอบิโตะ (เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติภารกิจ) และ ฮารุโนะ ริน คาคาชิคลั่งไคล้การอ่านหนังสืออจึ๋ยฯมาก ดังนั้นหากเขายังอ่านไม่จบ แต่มีคนมาเล่าตอนจบของอจึ๋ยฯให้ฟัง เขาจะทนไม่ได้ (ประมาณว่าเสียอรรถรสในการอ่านนั่นแหละ) ซึ่งตรงนี้นับเป็นจุดอ่อนของคาคาชิเลยก็ว่าได้ (สังเกตจากตอนที่คาคาชิกลับมาทดสอบฝีมือของนารุโตะกับซากุระ หลังจากการฝึกวิชามา 2 ปี) และ คาคาชิได้ฝึกวิชาเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาสำเร็จ แต่อิทาจิเคยพูดไว้ว่า"ถ้าไม่ใช่คนในตระกูลอุจิวะ ไม่สามารถเบิกเนตรนี้ได้" แต่คาคาชิก็ทำสำเร็จแม้ว่าจะยังใช้ได้ไม่คล่องก็ตาม ประมาณว่าใช้แล้วแรงหมดก๊อกเลยทีเดียว

ฮารุโนะ ซากุระ


ฮารุโนะ ซากุระ

เป็นนินจาที่ฉลาด หลังจากที่ซากุระได้เดินทางร่วมทุกข์ร่วมสุขกันกับกลุ่ม 7 มานาน เธอตกหลุมรักซาซึเกะอย่างมาก แต่รู้สึกกับ นารูโตะแค่เพื่อนที่สนิทมากๆเท่านั้น ในตอนท้าย ซาสึเกะ เป็นนินจาถอนตัวไปแล้ว นารูโตะ ก็บาดเจ็บจากการต่อสู้ เธอรู้สึก เสียใจมากที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอจึงไปขอเป็นลูกศิษย์ของซึนาเดะ ซึ่งเป็นนินจาแพทย์ที่เก่งที่สุดในเรื่องใช้วิชารักษาคน เป็นนินจาที่มีพลังคล้ายๆกับอาจารย์ของเธอ ซึงซากุระนั้นมีพลังที่ทำลายล้างสูงเหมือนซึนาเดะ แค่เธอต่อยลงพื่นที่เดียวแผนดินก็แตกออกเป็นส่วนๆ แถมยังถนัดวิชาภาพลวงตาอีก แล้วยังเป็นนินจาที่แข็งแกร่งมากในด้านพลัง มีจักระ พลังช้างสารของเธอสามารถ ทำลายกำแพงหรือทำดินให้แตกเป็นหลุมหรือแตกออกเป็นส่วนๆ ด้วยการอัด ต่อย หรือฟาดเท้าเพียงครั้งเดียว และเป็นนินจาแพทย์ที่ไม่มีวันตาย เธอสามารถชุบชีวิตตัวเองกี่ครั้งก็ได้ในการต่อสู้ โดยการเรียนวิชาจากซึนาเดะโดยนำมาดัดแปลงใหม่เป็นวิชาของตน ซึ่งเป็นนินจาหญิงที่อาจเหนือกว่า ซึนาเดะได้ เพราะ พลกำลัง พลังทำลาย การรักษา และวิชาลวงตา (ซึนาเดะไม่มี)เหนือกว่าซึนาเดะทั้งหมด

ฮารุโนะ ซากุระ สูง165หนัก43ก.ก.

อุจิวะ ซาสึเกะ


อุจิวะ ซาสึเกะ

เป็นนินจาหมู่บ้านโคโนฮะเป็นสมาชิก ในกลุ่ม 7 ที่มี อุซึมากิ นารุโตะ , ฮารุโนะ ซากุระ อยู่ด้วย ซาสึเกะ เป็นทายาทคนที่2มีพี่ชายชื่อ อุจิวะ อิทาจิ ซึ่งสามารถใช้เนตรวงแหวนได้เหมือนกับ ซาสึเกะตระกูลอุจิวะ มีความสามารถในการใช้เนตรวง แหวน โดยความสามารถนี้คือการก้อปปี้ความสามารถของสิ่งที่เห็น ทำให้สามารถใช้ท่าไม้ตายของคู่ต่อสู้แม้ได้เห็นเพียงครั้งเดียว ซาสึเกะมีความมุ่งมั่นเหมือนปณิธานว่า ต้องการล้างแค้นผู้ที่ฆ่าล้างตระกูลเขา ซึ่งก็คือพี่ชายแท้ๆของตน ชื่อ อุจิวะ อิทาจิ

ซาสึเกะรู้ตัวดีว่าตนยังไม่มีความสามารถมากพอและน้อยใจตัวเองที่ฝีมือ พัฒนาไม่ได้มากกว่านี้ อีกทั้งคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะทำได้จึงเรียนรู้และฝึกฝนการเป็นนิ นจาเวลาผ่านไปความแค้นของเขาก็ถูกปะทุขึ้น จากเหตุการณ์ สถานการณ์รอบๆตัว และ 1 ในเรื่องเหล่านั้นคือ การปรากฏตัวของ โอโรจิมารุ และการได้พบกับ อุจิวะ อิทาจิ อีกครั้ง

แพ้และได้รับอักขระฟ้า ครั้งนั้น คาคาชิอาจารย์ระดับโจนินที่คอยดูแลกลุ่ม 7 ช่วยปิดผนึกสะกดอักขระไว้ให้ แต่เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ซาสึเกะ ได้พบกับกับ อิทาจิ อีกครั้งและปะทะกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาคิดว่า จะไม่มีทางชนะอิทาจิ ได้หากยังไม่เก่งขึ้นยิ่งกว่านี้

ขณะที่ซาสึเกะตกอยู่ในวังวนแห่งความแค้น โอโรจิมารุ ได้ส่งสมุนมาชักชวน ซาสึเกะ ให้ออกจาก โคโนฮะ ไปยังหมู่บ้านโอโตะ และโอโรจิมารุ จะมอบพลังให้แก้แค้นแก่ ซาสึเกะ

ซาสึเกะ ตัดสินใจที่จะออกจากหมู่บ้านไปตามคำชักชวน แต่ นารุโตะ เข้าห้ามเขาเพราะรู้มาว่า โอโรจิมารุ ต้องการร่างของซาสึเกะ ไปทำพิธีย้ายร่างเพื่ออยู่เป็นอมตะ จึงไม่ยอมให้ซาสึเกะ เดินทางออกไป แต่ซาสึเกะ ไม่สนใจคำเตือนของ นารุโตะ พร้อมยืนยันการออกจากหมู่บ้านของตน ทั้งคู่จึงใช้การต่อสู้เป็นการตัดสิน

ท้ายที่สุด ซาสึเกะ เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ และออกเดินทางต่อไปยัง โอโตะ เพราะหวังจะได้พลังจากโอโรจิมารุ

เวลาผ่านไปเกือบ 3 ปี ซาสึเกะ ฝึกวิชาต่างๆจาก โอโรจิมารุ และได้เจอกับนารุโตะอีกครั้ง นารุโตะพยายามที่จะชักชวนซาสึเกะกลับหมู่บ้านอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้อีกเช่นเคย

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ซาสึเกะ ได้ฆ่า โอโรจิมารุ ขณะที่มีการทำพิธีกรรมย้ายร่าง และยึดวิชาทั้งหมดของโอโรจิมารุเป็นของตนเองไว้ด้วย เขาทำการปลดปล่อยซุยเก็ตสึออกมา และได้ชักชวน คาริน กับ จูโกะ ให้มาเข้าร่วมด้วย เดินทางในชื่อกลุ่ม "เฮบิ" (มีความหมายว่า "งู")โดยมีเป้าหมายเป็นความมุ่งมั่นเดิมของเขา "การแก้แค้นให้แก่ตระกูลอุจิฮะ"

ต่อมา เขาได้ออกตามหาอิทาจิ ระหว่างทาง เขาได้ต่อสู้กับเดอิดาระแต่เดอิดาระกลับสู้ซาสึเกะไม่ได้ ซึ่งในตอนนั้นเขาเกือบตายในการต่อสู้ครั้งนั้น เพราะการระเบิดตัวเองของเดอิดาระ เขาได้ใช้มันดะในการหลบหนีการโจมตีของเดอิดาระจึงรอดชีวิตมาได้

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้เจอกับอิทาจิ ในตอนการต่อสู้กับอิทาจินั้น ซึ้งในการต้อสู้ครั้งนั้น ซาสึเกะเกือบต้องผ่ายแพ้ แต่อิทาจิกับสินใจตายไปซะก่อน แล้วได้รับเนตรเทวีสุริยาจากอิทาจิมา ในการต่อสู้ครั้งนั้นมีเบื้องหลังอยูที่ว่ามาดาระนั้นได้เล่าความจริงเกี่ยว กับตระกูลอุจิวะให้ซาสึเกะฟังว่า อิทาจิทำทุกอย่างเพื่อเขาทั้งนั้น จนซาสึเกะน้ำตาตกในคราวนั้น เขาเสียใจในการจากไปของพี่ชายเขามาก โดยที่เขาแทบไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง ก่อนหน้าที่เขาจะเกิด และได้เบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุบผาของตัวเอง ออกมา เนตรมีระดับเหนือกว่าเนตรของอิทาจิ

หลังจากนั้น ซาสึเกะได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มใหม่ว่า เหยี่ยว แล้วกลุ่มเหยี่ยวนั้นได้รวมพรรคกับแสงอุษาเป้าหมายของเข้าก็คือถล่มโคโนฮะ ให้ราบคาบ

อุซึมากิ นารูโตะ


อุซึมากิ นารูโตะ

นารูโตะ นินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ สูง165ซม.หนัก40.1กก. ผู้ที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางใว้ ในท้องในช่วงที่เกิดใหม่ โดยโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้สละชีวิตตัวเองต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและผนึกจิ้งจอกเก้าหางลงไปใน ตัวนารูโตะ จึงสามารถฝึกวิชาของรุ่นที่4ได้ง่ายกว่าใครๆอย่างกระสุนวงจักรและรวมทั้ง วิชาพื้นฐานด้วย เนื่องจากนารูโตะได้รับอิทธิพลมาจาก จิ้งจอกเก้าหางโดยตรงทำให้นารูโตะมีจักระที่เยอะมากกว่าคนอื่นในระดับเดียว กัน นารูโตะเติบโตมากับความโดดเดี่ยวที่ไม่มีพ่อและแม่ และมากกว่านั้นนารูโตะโดนนินจาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นเกลียดชัง เนื่องจากหาว่ามีจิ้งจอกเก้าหางที่เคยมาทำลายหมู่บ้านอยู่ในร่างกาย อูมิโนะ อิรุกะอาจารย์ คนแรกของนารูโตะเป็นคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่นารูโตะเหมือนลูก อิรุกะเข้าใจความรู้สึกของนารูโตะเนื่องจากมีชีวิตในวัยเด็กเหมือนกัน ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และ จิ้งจอกเก้าหางที่สิงอยู่ในร่างของนารูโตะนั้นเคยทำร้ายพ่อแม่ของครูอิรุกะ อีกด้วย 12 ปีต่อมานารูโตะตัวแสบของหมู่บ้านโคโนฮะเข้าสอบเพื่อเลื่อนเป็นเกะนินแต่ไม่ สำเร็จ และ ได้ถูกมิซึกิหลอกให้ไปเอาคัมภีร์ที่รวบรวมวิชานินจามาให้ เพื่อตนเองจะได้เอาไปและให้นารูโตะเป็นแพะรับบาป แต่ อิรุกะได้มาช่วยนารูโตะไว้ มิซึกิได้บอกว่าในตัวนารูโตะมีตัวจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว และ ได้ฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะ นารูโตะได้เรียนวิชานินจากับซาซึเกะ,ซากุระ และ ครูคาคาชิซึ่งร่วมมือกันในภารกิจต่างๆในหน่วย 7 โดยเฉพาะภารกิจที่ช่วยคุ้มครองการสร้างสะพาน ตอนภาคสอง นารูโตะและซากุระพร้อมกันไปช่วย กาอาระ{คาเซคาเงะ}ที่โดนกลุ่มแสงอุษาลักพาตัวไป

ฉายา นินจาจอมเพี้ยน-นินจาอันดับหนึ่งด้านเหนือความคาดหมาย,แหกกฏ

นารูโตะเป็นนินจาที่ค่อนข้างจะโชคดีในเรื่องโชคลาภ เพราะในตอนที่จิไรยะเอาเงินของนารูโตะไปใช้เลยทำให้เงินหมด แต่เพราะไปเล่นเสี่ยงโชคขูดสลากครั้งเดียว นารูโตะสามารถเอาเงินกลับคืนมาได้หมด

ภาค ชิปปูเดน


ภาค ชิปปูเดน

หลังจากออกเดินทางเพื่อฝึกวิชาสองปีครึ่ง นารูโตะและจิไรยะได้กลับมายังหมู่บ้านโคโนฮะ ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มแสงอุษาได้ส่งซาโซริและเดฮิดาระเข้าไปชิงตัวกาอาระ แห่งหมู่บ้านซึนะ ซึ่งเป็นร่างสถิตของปีศาจหางเดียวไปได้ เมื่อหมู่บ้านโคโนฮะทราบข่าวซึนาเดะจึงได้ส่ง คาคาซิ นารูโตะ ซากุระ และทีมนินจาของไก ตามไปช่วยเหลือในการชิงเอาตัวกาอาระคืน ถึงแม้ว่าจะสามารถสังหารซาโซริและชิงเอาตัวกาอาระคืนมาได้ แต่กาอาระก็สูญเสียปีศาจหางเดียวที่สถิตในร่างตนไป

ก่อนที่ซาโซริจะตาย เปิดเผยว่าได้นัดพบกับสายลับที่แฝงตัวอยู่กับฝ่ายโอโรจิมารุ ทางหมู่บ้านโคโนฮะจึงวางแผนที่จะส่งนินจาปลอมตัวเป็นซาโซริไปพบกับสายลับดัง กล่าว เพื่อหาทางสืบข่าวไปถึงตัวซาสึเกะ ภารกิจครั้งนี้ได้มอบหมายให้แก่กลุ่มของคาคาชิ แต่เนื่องจากคาคาชิบาดเจ็บจากภารกิจชิงตัวกาอาระ จึงให้ ยามาโตะ เข้ามาเป็นผู้ควบคุมกลุ่มแทน นอกจากนี้ก็ให้ซาอิ นินจาจากกลุ่มราก เข้ามาเสริมเพื่อให้กลุ่มมีสมาชิกครบทีมสี่คนแทนที่ซาสึเกะ

เมื่อได้ทีมใหม่ ทีมคาคาชิก็เริ่มทำภารกิจใหม่ทันที คือการไปพบสปายของแสงอุษา ทีมเวิร์คระหว่างนารูโตะกับซาอินั้นเลวร้ายมาก นอกจากนั้นซาอิยังคอยพูดจาดูถูกความสามารถของนารูโตะ และยังลามไปถึงเรื่องที่ซาสึเกะทรยศหมู่บ้าน ซึ่งเรื่องหลังนี้ทำให้นารูโตะกับซากุระทนไม่ได้อยู่หลายครั้ง ซาอิไม่เข้าใจว่าทำไมนารูโตะถึงอยากช่วยซาสึเกะนัก ทั้งๆที่ซาสึเกะพยายามจะฆ่านารูโตะด้วยซ้ำ ซากุระจึงย้อนถามว่าซาอิก็เคยสูญเสียพี่ชาย น่าจะเข้าใจความรู้สึกของนารูโตะบ้าง แต่ซาอิกลับบอกว่าเขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลย

ยามาโตะปลอมตัวเป็นซาโซริไปพบสปายแสงอุษา ซึ่งก็คือคาบูโตะลูกน้องโอโรจิมารุนั้นเอง ในขณะที่จะสอบถามข้อมูล โอโรจิมารุก็ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับที่คาบูโตะโจมตีเข้าใส่ยามาโตะ และเฉลยให้ฟังว่า คาถาที่ซาโซริใช้สะกดคาบูโตะถูกคลายไปก่อนหน้านี้

ในการต่อสู้กับทีมคาคาชิ โอโรจิมารุยั่วยุนารูโตะจนปลดปล่อยพลังของจิ้งจอก 9 หาง โดยมีหางงอกออกมาถึง 4 หาง จนสูญเสียการควบคุมตนเอง และสู้กันจนโอโรจิมารุหนีไปพร้อมกับซาอิซึ่งทรยศไปอยู่กับพวกโอโรจิมารุ ยามาโตะได้ใช้คาถาเฉพาะของโฮคาเงะรุ่นที่ 1 สะกดนารูโตะเอาไว้ได้ ซากุระก็ใช้พลังรักษานารูโตะซึ่งบาดเจ็บสาหัสจากการปลดปล่อยพลังจิ้งจอกเก้า หาง เมื่อนารูโตะฟื้นขึ้นมาจึงได้ติดตามพวกโอโรจิมารุไปและสามารถลอบเข้าไปในฐาน ลับของโอโรจิมารุ และสามารถจับซาอิมัดไว้เพื่อซักถามความจริงแต่ซาอิไม่ยอมบอก แต่กลับถามว่าทำไมนารูโตะถึงทุ่มเทเพื่อช่วยซาสึเกะขนาดนี้ และเมื่อได้ฟังสิ่งที่นารูโตะพูด ซาอิจึงนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับพี่ชายขึ้นมา

ขณะนารูโตะต่อสู้กับคาบูโตะ ซาอิเปลี่ยนใจกลับมาช่วยนารูโตะ จัดการมัดคาบูโตะไว้แล้วช่วยนารูโตะตามหาซาสึเกะ แต่เมื่อพบกับซาสึเกะ พวกนารูโตะก็ต้องผิดหวังเพราะนอกจากซาสึเกะจะยืนยันไม่กลับไปโคโนฮะแล้วยัง โจมตีพวกนารูโตะอีกด้วย การโจมตีของซาสึเกะนั้นแม้แต่ยามาโตะยังสู้ได้อย่างลำบาก สุดท้ายโอโรจิมารุได้มาหยุดซาสึเกะไว้ โดยคาบูโตะให้เหตุผลว่าควรเก็บพวกนารูโตะไว้เพื่อใช้จัดการกลุ่มแสงอุษา หลังจากนั้นโอโรจิมารุก็ถูกซาสึเกะดูดกลืนเข้ามาในตัวและออกรวบรวมคนมาเป็น หน่วยย่อยของตนเอง

นารูโตะ ซากุระ ซาอิ และยามาโตะกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้งและยืนยันกับโฮคาเงะรุ่นที่ 5 ว่าจะไม่ละความพยายามในการตามตัวซาสึเกะกลับมา คาคาชิที่อาการดีขึ้นจากการบาดเจ็บ บอกกับนารูโตะว่ามีวิธีหนึ่งที่จะทำให้นารูโตะสามารถเก่งกาจได้เท่าๆกับซาสึ เกะ นารูโตะจึงได้เริ่มฝึกวิชากับคาคาชิและยามาโตะ โดยสิ่งแรกให้นารูโตะลองทดสอบธาตุจักระของตัวเอง ซึ่งผลออกมาคือนารูโตะมีจักระธาตุลม คาคาชิจึงเริ่มให้นารูโตะฝึกแปลงคุณสมบัติจักระ โดยให้ใช้จักระตัดใบไม้ให้ขาด จนไปถึงใช้จักระแยกน้ำตก ในการฝึกนี้คาคาชิได้ให้นารูโตะใช้คาถาแยกเงาพันร่างเพื่อทำให้การฝึกวิชา เร็วขึ้น

เมื่อนารูโตะสามารถแปลงจักระเป็นจักระธาตุลมได้แล้ว คาคาซิจึงได้บอกถึงสุดยอดวิชาที่อาจารย์ของตน โฮคาเงะรุ่นที่ 4 คิดค้นขึ้นมาคือ กระสุนวงจักระ ซึ่งเป็นการแปลงลักษณะของจักระจนอยู่ในรูปแบบที่มีพลังโจมตีสูงสุด ซึ่งทั้งจิไรยะที่เป็นอาจารย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 และคาคาชิเองก็สามารถใช้กระสุนวงจักรได้ แต่พอมาถึงขั้นต่อไปคือการใช้ การแปลงคุณสมบัติจักระพร้อมกับการสร้างกระสุนวงจักร จนมาถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้เลย แต่คาคาซิเชื่อมั่นว่า มีอยู่คนหนึ่งที่สามารถทำได้สำเร็จ ซึ่งคือ นารูโตะ นั่นเอง

ระหว่างที่นารูโตะฝึกวิชาอยู่นั้นเองกลุ่มแสงอุษา 2 คน ชื่อคาคุซึและฮิดัน ซึ่งจับสัตว์หางมาแล้ว 2 ตัว มาบุกโคโนฮะและฆ่าอาซึม่าตาย ทำให้ชิกามารุโกรธแค้นมาก ทีม 10 ของชิกามารุจึงได้กลับไปต่อสู้กับทั้ง 2 คนอีกครั้งโดยมีคาคาชิร่วมด้วย และแล้วชิกามารุก็สามารถจัดการฮิดันได้ แต่คาคุซึคนเดียวก็สามารถต่อสู้กับคาคาชิ โจจิและอิโนะได้ จนทีมของนารูโตะตามมาช่วยทันเวลา นารูโตะใช้คาถาใหม่ วังวนวาตะ เข้าสกัดการโจมตีของคาคุซึไว้ได้ และใช้วิชาใหม่ "กระสุนวงจักรดาวกระจายวายุ" ซึ่งยามาโตะบอกว่าสำเร็จไปเพียง 50% จัดการกับคาคุซึ อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นพลังเพียงครึ่งเดียว วิชานี้ก็สามารถโค่นคาคุซึลงได้ แต่ซึนาเดะบอกให้นารูโตะหลีกเลี่ยงการใช้วิชานี้อีกเพราะเป็นอันตรายต่อตัว เองด้วย

เมื่อจัดการกับคาคุซึลงได้ โคโนฮะจึงได้จัดตั้งกลุ่มย่อยขึ้น นำทีมโดยคาคาชิ เพื่อไปตามหาซาสึเกะ กลุ่มย่อยที่ปฏิบัติภารกิจนี้ได้แก่ นารูโตะ คาคาชิ ซากุระ ยามาโตะ ซาอิ คิบะ ชิโนะ และ ฮินาตะ ในขณะที่กำลังติดตามซาสึเกะอยู่นั้น อิทาจิได้มาพบกับนารูโตะในช่วงสั้นๆ และได้มอบพลังบางอย่างของตนให้นารูโตะไว้

ส่วนทางด้านจิไรยะซึ่งรู้ที่อยู่ของหัวหน้ากลุ่มแสงอุษาซึ่งอาศัยอยู่ใน หมู่บ้านอาเมะงาคุเระ จึงได้เข้าไปสืบข้อมูล แต่พอได้เจอกับหัวหน้าแสงอุษาคือ เพน และโคนัน หนึ่งในสมาชิกแสงอุษา ซึ่งทั้งสองคนเป็นอดีตลูกศิษย์ของจิไรยะนั่นเอง เพนซึ่งตอนนี้ยังมีความลับที่ยังไม่มีใครรู้ มีอยู่ด้วยกัน 6 ร่าง ซึ่งทั้งหกร่างจะมีเนตรสังสาระ ซึ่งเป็นเนตรที่แกร่งที่สุดในบรรดาเนตรทั้งหมด เพนและจิไรยะซึ่งใช้โหมดเซียน ได้สู้กันอย่างสูสี แต่สุดท้ายเมื่อจิไรยะได้รู้ความลับของเพน ทันใดนั้นจิไรยะก็ถูกเพนสังหาร จิไรยะจึงใช้พลังเฮือกสุดท้ายเขียนความลับลงบนหลังปู่เซียนกบส่งข้อความไป ให้ทางโคโนฮะรู้

ตัดฉากมาที่ซาสึเกะซึ่งได้พบกับอิทาจิและได้ต่อสู้กัน ซึ่งความลับของเนตรวงแหวนถูกเปิดเผยรวมไปถึงความลับของ อุจิวะ มาดาระ ผู้อยู่บนจุดสูงสุดของเนตรวงแหวน และอิทาจิบอกว่าจะชิงเนตรวงแหวนของซาสึเกะมา เพื่อรักษาดวงตาและเพิ่มพลังเนตรวงแหวนของตนให้ใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่น บุปผาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

ในช่วงท้ายของการต่อสู้ ซาสึเกะได้ใช้คาถาสายฟ้าอันรุนแรงที่เรียกว่า กิเลน (คิริน) ออกมา แต่ก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ เพราะอิทาจิงัดท่าไม้ตายสุดท้ายออกมาที่เรียกกว่าซึซาโนะ(เทพวายุ)ซึ่งมี พลังป้องกันอันแข็งแกร่ง ซาลึเกะซึ่งใช้จักระของตนจนหมด จึงใช้อักขระต้องสาป เพื่อเพิ่มพลังแต่กลับทำให้โอโรจิมารุออกมาจากร่าง แต่อิทาจิก็สามารถจัดการสะกดโอโรจิมารุและทำลายอักขระต้องสาปไปได้ ซาสึเกะที่ตะลึงค้างเพราะหมดหนทางต่อกรยืนรอให้อิทาจิซึ่งอยู่ในสภาพผิดปกติ เดินเข้ามาถึงตัว แล้วก็พูดประโยคเบาๆบางอย่าง พร้อมกับเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากของซาสึเกะ จากนั้นอุจิวะ อิทาจิ ก็สิ้นลมและล้มลงไปต่อหน้าซาสึเกะ

ทางอุจิวะ มาดาระนั้นเมื่อรู้ว่าอิทาจิตาย ก็มาเอาตัวซาสึเกะไป พอซาสึเกะได้เห็นเนตรวงแหวนของมาดาระ เทวีสุริยา ของอิทาจิก็ทำงาน มาดาระจึงได้รู้ว่า ก่อนที่อิทาจิจะตายนั้น อิทาจิได้มอบวิชาเนตรวงแหวนที่เค้ามีให้กับซาสึเกะ แต่ก็ไม่สามารถจัดการมาดาระได้ และมาดาระก็ได้บอกถึงตัวตนที่แท้จริงของอิทาจิที่ต้องการช่วยโลกนินจา หมู่บ้านโคโนฮะ และ ปกป้องน้องชายที่รักที่สุดของตนเองไว้

มาดาระได้เล่าต่อไปถึง เรื่องราวในอดีตของตระกูลอุจิวะ และ การปะทะกันของ โฮคาเงะรุ่น 1 กับ มาดาระ ที่หุบผาสิ้นสุด พอได้ฟังคำบอกเล่าจากมาดาระ ซาสึเกะก็นึกทบทวนคำพูดและท่าทางของอิทาจิตอนใกล้จะสิ้นลม ว่ายังเหมือนสมัยก่อนเป็นพี่ชายที่เค้าให้ความเคารพรักทุกประการ และด้วยเงื่อนไขการตายจากของบุคคลที่รัก ทำให้ซาสึเกะสามารถเบิกเนตรกระจกเงาหมื่นบุษผาของตัวเองได้สำเร็จ มาดาระได้ถามซาสึเกะว่า จะทำตามในสิ่งที่อิทาจิคาดหวังไว้ถึงความสงบของโลกนินจาหรือไม่

ซาสึเกะได้เปลื่ยนชื่อจากทีม "งู" เป็นทีม "เหยี่ยว" และร่วมมือกับมาดาระเพื่อทำลายโคโนฮะ โดยการช่วยแสงอุษาจับสัตว์หางที่เหลือคือ 8 หางและเก้าหาง โดยเหยี่ยวรับหน้าที่จับ 8 หางไป ส่วนแสงอุษาจะจับตัวจิ้งจอกเก้าหางจากตัวนารูโตะ โดยมีมาดาระเป็นผู้ออกคำสั่งเอง กลับมาทางโคโนฮะเมื่อรู้ว่าจิไรยะได้ตายทำให้นารูโตะเองเสียใจมาก ก่อนตายจิไรยะได้เขียน รหัสลับ ฝากปูเซียนกบมาและเรื่องเด็กในคำทำนายของจิไรยะ เพื่อเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับเพนและนารูโตะ และในที่สุด ชิกามารุ นารูโตะ ก็ไขรหัสลับได้ซึ่งถอดใจความได้ว่า เพนไม่มีตัวตนที่แท้จริง

ในเวลาเดียวกันเพน ทั้ง 6 คน ก็เตรียมที่จะบุกโคโนฮะ ทางด้านนารูโตะนั้น ได้รับข้อเสนอที่จะไป ฝึกวิชาเซียนกับ ปู่กบ ที่ ภูเขาเมียวโบคุ และทางด้านซาซึเกะได้ออกเดินทางไปยังหุบเขาอุนไรเพื่อตามหา 8 หาง และแล้วทีมเหยี่ยวได้เข้าปะทะกับคิลเลอร์ บี เจ้าของร่างสถิต 8 หาง โดยซาสึเกะที่ได้รับพลังจากอิทาจิ ได้ใช้เทวีสุริยา กับ 8 หาง ทว่าในขณะที่ 8 หางกำลังดิ้นทุรนทุราย หนวดปลาหมึกข้างที่ติดไฟกลับทำให้ คาริน โดนลูกหลงไปด้วย ซาสึเกะพยายามที่จะดับไฟ ได้เผลอใช้พลังเนตรใหม่ และก็สามารถดับไฟได้อย่างน่าประหลาดใจ แต่ก็สามารถเอาชนะ 8 หางได้ ในตอนที่แสงอุษาทำการถอด 8 หางออกจากร่าง แปดหางก็หนีออกไปได้ โดยใช้ร่างเงาจากหนวดที่โดนตัดทิ้งไว้ ทั้งหมดเป็นแผนที่ 8 หางวางไว้ล่วงหน้าเพื่อหลอกแสงอุษา

ทางด้านนารูโตะ ได้ฝึกวิชาเซียนจนสามารถดึงพลังจากธรรมชาติมาใช้ได้ในโหมดเซียน ซึ่งเหนือกว่าของจิไรยะ และขณะเดียวกันแสงอุษาก็เริ่มโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ เพนก็บุกเข้าไปที่หมู่บ้าน และเกิดการต่อสู้กันระหว่างนินจาของหมู่บ้านกับเพน คาคาชิได้ปะทะเพน และรู้ว่าความแข็งแกร็งของเพน ทั้ง 6 นั้น เกิดจากความสัมพันธ์กัน แต่ละร่างของ เพน มีความเก่งกาจคนละด้าน การที่จะจับตัวเพนได้ต้องแยกเพนทั้ง 6 ออกจากกัน ส่วนนารูโตะยังไม่รู้ว่าเพนบุกหมุ่บ้าน เนื่องจาก กบที่อยู่กับ รุ่นที่ 5 ถูกสังหารโดย "ดันโซ" หัวหน้าหน่วยราก ในขณะจะไปส่งข่าวให้นารูโตะทราบ เพราะดันโซวางแผนเพื่อจะได้ขึ้นเป็นโฮคาเงะแทน

ในการต่อสู้ระหว่างคาคาชิ กับ หนึ่งในเพนนั้น ก็ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มของ อาคิมิจิ โจสะ ซึ่งในกลุ่มนั้นมีอาคิมิจิ โจจิ (ลูกชายของโจสะ) รวมกลุ่มอยู่ด้วย ด้วยเหตุการเหนือความคาดหมายในแผนการสังหารหนึ่งในเหล่าเพนที่สู้อยู่ ทำให้อาคิมิจิ โจสะ เสียชีวิตเพราะช่วยชีวิตลูกชายของตนเอง แต่แล้วหนึ่งในเหล่าเพนที่ทุกคนคิดว่า ตายไปแล้วกลับฟื้นขึ้นมาแล้วโจมตีใส่ อาคิมิจิ โจจิ ทำให้คาคาชิ ต้องใช้พลังเฮือกสุดท้ายของเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา ดูดมิสไซส์ ที่โจมตีใส่โจจิ จนหายไป เพื่อช่วยให้โจจิ มุ่งหน้าไปแจ้งข่าวเกี่ยวกับความสามารถของเพน ต่อมา เมื่อซึนาเดะรู้เรื่อง จึงไปสู้กับเพน และ ให้ซากุระ คอยดูแลคนอื่น ต่อมาซึนาเดะได้พลาดท่าโดนเพนโจมตี และแล้วนารูโตะก็เข้ามาช่วยได้ทัน

นารูโตะ สำเร็จวิชาโหมดเซียน และมาสู่สนามรบพร้อมกับกบอีก 5 ตัวและสามารถจัดการเพนได้ แต่ไม่ว่านารูโตะจะจัดการกี่ครั้ง มันก็คืนชีพด้วยวิชาของร่างเทพเจ้าขึ้นมาสู้อีก เมื่อเพนยุนารูโตะมากขึ้น นารูโตะ ได้ใช้ดาวกระจายวงจักรอีกครั้ง และพอนารูโตะใช้พลังโหมดเซียนหมด ก็ใช้ร่างแยกของนารูโตะที่อยู่ที่สถานที่ฝึกวิชามา และใช้กระสุนวงจักรคู่ และดาวกระจายวงจักร จนสามารถจัดการเพนได้ 5 คน แต่เพนร่างพระเจ้าเก่งกาจมาก จัดการกามะบุนตะ กามะเคน และกบอีกตัวโดยง่ายดาย ฟุคุซากุ(พ่ออุ่ย) และแม่อุ้ยได้เตรียมคาถาลวงตาเรียบร้อยแล้ว แต่ฟุคาซากุถูกเพนฆ่าไปเสียก่อน เพนใช้แท่งโลหะสีดำที่เป็นตัวรับจักระ แทงไปตามจุดต่างๆของร่างกายนารูโตะ ทันใดนั้นฮินาตะได้เข้าขัดขวาง และสารภาพความในใจกับนารูโตะ ถึงตายชั้นก็จะปกป้องเธอเพราะว่าชั้นรักเธอที่สุด ทันใดนั้นภาพที่ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น ฮินาตะพลาดท่า ถูกแท่งโลหะสีดำเสียบ เลือดสีแดงสาดกระเซ็น ความโกรธทำให้นารูโตะ ควบคุมสติไม่อยู่ พลังจิ้งจอก 9 หางจึงทะลักออกมา ตอนนี้หางทั้ง 6 ปรากฏเบื้องหน้าเพนและนารุโตะในร่าง 6 หางได้ทำลายสร้อยคอผนึกทิ้ง ทางด้านพ่อของอิโนะได้คิดอะไรบางอย่างออก!? เกี่ยวกับร่างจริงของเพนและได้เริ่มทำการค้นหา แต่ในระหว่างต่อสู้ ทำให้หางของนารูโตะยิ่งเพิ่มขึ้น จนถึงหางที่ 8 (ดูจากมือของยามาโตะ หรือ เท็นโซ) แต่แล้ว ในตัวของนารูโตะ รุ่นที่ 4 ก็ปรากฏตัวออกมา แล้วได้คุยกับนารูโตะ จึงทำให้รู้เรื่องว่า รุ่นที่ 4 คือพ่อของนารูโตะ แล้วรุ่นที่ 4 ยังช่วยซ่อมแซมผนึกจิ้งจอกเก้าหางในตัวนารูโตะอีก จึงทำให้นารูโตะได้กลับไปสู้กับเพนอีกครั้งในโหมดเซียน ซึ่งสามารถต้านคาถาจิบาคุเท็นเซย์ (ดูดแผ่นดินเข้าไปอัดรวมตัวกัน เหมือนดวงจันทร์ ซึ่งว่ากันว่า ในอดีต 6 เซียนเต๋าผู้มีเนตรสังสาระเป็นบรรพบุรุษของนินจาทั้งมวล ได้เป็นผู้สร้างดวงจนทร์จากวิชานี้เช่นกัน)ของเพนได้

นารูโตะบอกเพน พาไปหาร่างจริงของเพน(นางาโตะ)แต่เพนไม่พาไป นารูโตะจึงใช้แท่งโลหะสีดำแทงใส่ตัวเองที่อยู่ในโหมดเซียนเพื่อส่งจักระของ ตัวเองย้อนทางกับไปค้นหานางาโตะจนพบ และได้คุยเรื่องอดีต ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการเกิดเพน เริ่มตั้งแต่จิไรยะ ซึ่งเป็นอาจารย์ของเด็กทั้ง 3 คน มาจากแคว้น อาเมะงาคุเระ ได้แก่ ยาฮิโกะ โคนัน และนางาโตะ(ผู้มีเนตะสังสาระและได้มาเป็นเพนในปัจจุบัน) หลังจากจิไรยะสอนวิชานินจาเสร็จ และกล่าวถึงความเจ็บปวดที่สุด 2 ครั้งในชีวิตของ นางาโตะ ก่อนที่จะมาเป็นเพน คือ ครั้งแรก พ่อแม่ของตน ถูกจูนินจากหมู่บ้านโคโนฮะฆ่าตายด้วยความไม่ตั้งใจ และนางาโตะก็ระเบิดพลังด้วยความโกรธ ฆ่านินจาทั้ง 2 คนโดยไม่รู้ตัว จนต้องออกมาจากบ้านและ ได้พบยาฮิโกะ และโคนัน เด็กบ้านแตกจากสงครามของแคว้นใหญ่ในเวลาต่อมา ซึ่งยาฮิโกะเป็นตัวตั้งตัวตีที่มีความฝันอยากจะหยุดสงคราม สร้างสันติภาพให้แก่โลก และหลังจากนั้นก็ได้ฝึกวิชานินจากับจิไรยะ และได้สร้างองค์กรที่มีชื่อเสียงภายในแคว้นของตนที่มี ยาฮิโกะเป็นหัวหน้า จนเริ่มไปขัดแข้งขา กับ ซาลามานเดอร์ ฮันโซ หัวหน้าหมู่บ้านอาเมะงาคุเระ ที่เป็นผู้ตั้งฉายา 3 นินจาในตำนาน ให้ โอโรจิมารุ จิไรยะ และซึนาเดะ และการขัดขานี่เอง ได้สร้างความเจ็บปวดครั้งที่ 2 ให้แก่นางาโตะ คือการฆ่าตัวตายของยาฮิโกะต่อหน้าตัวนางาโตะเอง ภายหลังที่โคนันถูกจับเป็นตัวประกัน โดยฮันโซและกองกำลังรากของโคโนฮะ นำโดย ดันโซ ที่ต้องการให้ฮันโซ ช่วยดันตนเองเป็นโฮคาเงะ โดยแลกกับการช่วยคุ้มครองสถานะของแคว้นตน ซึ่งจากเหตุการณ์ ทำนางาโตะได้ระเบิดพลังด้วยเนตรสังสาระอีกครั้ง โดยได้อัญเชิญ "เกโดมาโซ" อสูรต้องห้ามออกมา (เป็นตัวเดียวกันกับที่เป็นแท่นพิธีกักสัตว์หางของแสงอุษา)จัดการกับกองกำ ลังของฮันโซและหน่วยรากจากโคโนฮะ ทำให้ทั้งฮันโซ และดันโซต้องล่าถอยไป และถึงแม้จะช่วยโคนันไว้ได้ แต่ก็ต้องเสียยาฮิโกะไป และตนเองก็ได้รับผลจากการอัญเชิญอสูรต้องห้าม ที่เป็นแท่งสีดำพิเศษที่เจาะติดที่ตัวเพนมาจนถึงปัจจุบัน

ระหว่างนางาโตะกล่าวถึง ผู้ที่จะสร้างสันติได้นั้นต้องรับความเจ็บปวดแบบเดียวกันเสียก่อนจึงจะเข้า ใจและสร้างสันติภาพขึ้น แต่นารูโตะไม่เห็นด้วย และได้นำหนังสือเล่มแรกที่จิไรยะเขียนออกมา ซึ่งจิไรยะแต่งสมัยที่กำลังเป็นอาจารย์ให้นางาโตะที่อาเมะงาคุเระ ชื่อว่า "ตำนานของนินจาผู้กล้า" ซึ่งเนื้อเรื่องกล่าวถึงเรื่องราวของนินจาคนหนึ่ง ที่มีแรงบันดาลใจมาจากคำพูดของนางาโตะที่จะปกป้องทุกคนและสร้างสันติให้เกิด ขึ้น โดยมีตัวเอกของเรื่องชื่อ นารูโตะ ซึ่งนางาโตะเองก็ได้อ่านหนังสือนั้นเช่นกัน และนารูโตะได้ให้ความเชื่อมั่นแก่นางาโตะและโคนันว่า จะนำสันติสุขมาสู่โลกนินจา ทั้งโคโนฮะ และอาเมะงาคุเระ โดยเอาชีวิตของตัวเองและชื่อนารูโตะตัวเอกในหนังสือของจิไรยะเป็นสิ่งยืนยัน ความกล้า ความตั้งใจที่จะไม่พ่ายแพ้และต่อสู้กับความเครียดแค้นในโลกของนินจา ทำให้นางาโตะเชื่อใจและยอมรับในตัวนารูโตะ และก่อนที่จะจากไป นางาโตะได้ใช้วิชาลับอีกอย่างคือ การชุบชีวิตนินจาโคโนฮะทุกคนที่ได้ฆ่าไป รวมทั้ง ฟุคุซากุ กบอาวุโส ซึ่งเค้าใช้จักระเฮือกสุดท้ายจนหมดและจบชีวิตลงไป โคนันไม่แปลกใจกับการตัดสินใจของนางาโตะที่เชื่อใจนารูโตะ พอได้ยินนารูโตะบอกอย่างเศร้าๆว่า ทั้งชื่อนารูโตะ ทั้งการต่อสู้เพื่อรักษาสันติ ทั้งเรื่องทุกข์ใจจากการสูญเสีย เป็นสิ่งที่อาจารย์และศิษย์ร่วมสำนักได้ฝากไว้ให้สานต่อ

ในขณะที่นารูโตะเดินกลับหมู่บ้านกำลังจะล้มลง คาคาชิ ก็ได้เข้ามาพยุงอย่างทันท่วงที และพาเดินมาพบนินจาทั้งหมู่บ้านที่ออกมาต้อนรับนารูโตะอย่างวีรบุรุษ ภาพที่เห็นทำความฝันในวัยเด็กของนารูโตะเป็นจริงอีกอย่างคือ ให้ทุกคนในหมู่บ้านยอมรับเค้าเป็นพวกพ้อง เป็นคนสำคัญ ซึ่งในเหตุการณ์ที่เพนได้บุกหมู่บ้านนี้ ทำให้โฮคาเงะรุ่นที่ 5 ได้ใช้พลังทั้งหมดในการฟื้นฟูพลังนินจาทั้งหมู่บ้านโดยผ่านทากของตน และได้หมดสติไป ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่ทางไดเมียวแห่งแคว้นไฟ ได้เรียกประชุมด่วน ทำให้ดันโซ ได้ถือโอกาสเสนอชื่อตนเองเป็นโฮคาเงะรุ่นที่ 6 แทน ในขณะเดียวกัน ทางแสงอุษาเมื่อทราบข่าวการพ่ายแพ้และแยกตัวของเพน ก็ได้จัดกำลังให้คิซาเมะไปล่าตัว 8 หาง ในขณะที่กลุ่มของซาซึเกะก็กำลังมุ่งหน้าสู่โคโนฮะ เพื่อแก้แค้น ในขณะเดียวกันดันโซสั่งซาอิซึ่งเป็นหน่วย รากติดตามนารูโตะ แต่ดันโซคิดว่าซาอิคงจะหักหลังหน่วยรากเลยใช้หน่วยรากคนอื่นมาทำงานแทนและ แอบติดตามนารูโตะ แต่ขณะที่หน่วยรากกำลังซุ่มดูนารูโตะท้าดวลคาถามหารัญจวนกับโคโนฮะมารุ คาคาชิได้ใช้เนตรวงแหวนทำให้หน่วยรากทั้งหมดสลบไป จากนั้นยามาโตะ,คาคาชิและนารูโตะ ได้ออกเดินทางเพื่อไปคุยกับไรคาเงะให้ยกโทษให้ซาซึเกะ แต่ไรคาเงะได้ปฏิเสธไป โทบิได้มาปรากฏตัวต่อหน้านารุโตะ คาคาชิ และยามาโตะ และได้บอกเล่าเรื่องของซาสึเกะ โทบิเล่าถึงการกำเนิดของตระกูลอุจิวะและเซนจุ การต่อสู้ของตนกับโฮคาเงะรุ่นที่หนึ่ง เขาต้องการใช้ซาสึเกะในการประกาศศักดาของอุจิวะ และบอกว่าอย่างไรก็ตาม นารุโตะจะต้องสู้กับซาสึเกะ ในขณะเดียวกันซาสึเกะก็กำลังต่อสู้กับไรคาเงะอยู่

ภาคแรก


ภาคแรก

เมื่อสิบสองปีก่อน ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ได้บุกเข้าโจมตีหมู่บ้าน โคโนฮะ ทำให้ (โฮคาเงะ รุ่นที่ 4) ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ต้องยอมพลีชีพเพื่อสะกดวิญญาณของปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง ผนึกไว้ในร่างของทารกคนหนึ่ง นามว่า อุซึมากิ นารูโตะ

สิบสองปีถัดมา นารูโตะ ซึ่งเป็นกำพร้าและไม่มีพี่น้อง เติบโตขึ้นโดยไม่รู้ว่าตนเองมีจิ้งจอกเก้าหางอยู่ภายในร่างกาย หลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นนินจาชั้น เกะนิน (นินจาระดับล่าง) และปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การควบคุมของ ฮาตาเกะ คาคาชิ ซึ่งเป็น โจนิน (นินจาระดับสูง) ฉายา ก๊อบปี้นินจา โดยมีสมาชิกร่วมทีมอีกสองคน คือ อุจิวะ ซาสึเกะ และ ฮารุโนะ ซากุระ

ทีมนินจาของคาคาชิได้รับภารกิจให้ความคุ้มครองทะสุนะ นักสร้างสะพานแห่งแคว้นนามิโนะคุนิจากซาบุซะจนสำเร็จ ซึ่งเป็นภารกิจที่ยากกว่าความสามารถของเกะนินปกติจะทำได้ ทำให้คาคาชิมีความมั่นใจในความสามารถของทั้งสามคน จึงได้ส่งรายชื่อของพวกเขาเข้าร่วมการสอบเลื่อนระดับเป็น จูนิน (นินจาระดับกลาง) โดยการสอบรอบแรกเป็นการทดสอบการลอบสืบข้อมูล ซึ่งนารูโตะได้แสดงวิถีนินจาของตัวเองออกมา

ในระหว่างการสอบรอบที่สอง ซึ่งทำการสอบกันในป่ามรณะ โอโรจิมารุ แห่งหมู่บ้าน โอโตะ ก็ได้ลอบเข้ามาทำร้ายซาสึเกะ แต่ก็ถูกนารูโตะ ซากุระ และเกะนินอื่นที่เข้าร่วมการสอบขัดขวางไว้ได้ อย่างไรก็ตาม โอโรจิมารุได้ผนึกอักขระต้องสาปไว้กับซาสึเกะ ซึ่งช่วยให้เขามีพลังในการต่อสู้เพิ่มขึ้น เมื่อถูกอักขระเข้าครอบงำ หลังจากต้องผจญกับอุปสรรคต่างๆ ทีมของนารูโตะก็สามารถผ่านการสอบรอบที่สองมาได้ แต่การสอบรอบที่สาม เป็นการประลองฝีมือตัวต่อตัวแบบแพ้คัดออก ระหว่างเกะนินที่เข้าสอบด้วยกัน ในการต่อสู้รอบแรกนารูโตะสามารถเอาชนะคิบะมาได้ ส่วนการประลองในรอบที่สองซึ่งจะเริ่มในอีก 1 เดือน นารูโตะจะต้องต่อสู้กับเนจิ

ก่อนการประลองรอบที่สองจะเริ่มขึ้น ซาสึเกะได้รับการถ่ายทอดวิชาพันปักษาจากคาคาชิ ในขณะที่นารูโตะได้พบกับ จิไรยะ (หนึ่งในสามนินจาในตำนาน) ซึ่งได้ทำการปลดผนึกจักระที่โฮคาเงะ รุ่นที่ 4 ทำไว้กับนารูโตะ (เป็นผนึกที่ทำซ้อนทับผนึกของโฮคาเงะ รุ่นที่ 4 อีกชั้นหนึ่ง) ทำให้นารูโตะสามารถควบคุมจักระได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังสอนวิชาอัญเชิญสัตว์ให้มาช่วยทำการต่อสู้แก่นารูโตะด้วย

ในวันเริ่มต้นการประลองรอบที่สอง นารูโตะสามารถเอาชนะเนจิได้ แต่ระหว่างการประลองในคู่ของซาสึเกะ โอโรจิมารุได้นำนินจาของหมู่บ้านโอโตะเข้าโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ โดยมีนินจาจากหมู่บ้าน ซึนะ ได้แก่ กาอาระ เทมาริ และ คันคุโร่ เข้าร่วมการโจมตีด้วย โอโรจิมารุสามารถสังหาร ซารุโทบิ (โฮคาเงะรุ่นที่ 3) ซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านโคโนฮะในขณะนั้นได้ แต่ตนเอง(โอโรจิมารุ)ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และการโจมตีหมู่บ้านประสบความล้มเหลว

ภายหลังการต่อสู้ หมู่บ้านโคโนฮะต้องทำการสรรหาโฮคาเงะคนใหม่ จิไรยะ ซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์เอกของโฮคาเงะ รุ่นที่ 3 ให้ความเห็นว่า บุคคลผู้นั้นควรเป็น ซึนาเดะ (หนึ่งในสามนินจาในตำนาน) และอาสาจะไปตามตัวเธอมา โดยพานารูโตะเดินทางไปกับเขาเพื่อฝึกวิชาพร้อมกันไปด้วย ในขณะเดียวกันที่หมู่บ้านซึนะก็พบว่า หัวหน้าหมู่บ้านของตน (คาเซะคาเงะ รุ่นที่ 4) ได้ถูกโอโรจิมารุลอบสังหารแล้วปลอมตัวมาสั่งการให้ร่วมกับหมู่บ้านโอโตะโจม ตีหมู่บ้านโคโนฮะ

ในช่วงที่นารูโตะและจิไรยะเดินทางออกจากหมู่บ้านเพื่อตามหาซึนาเดะ อุจิวะ อิทาจิ พี่ชายของซาสึเกะ ซึ่งขณะนี้สังกัดอยู่ในกลุ่มแสงอุษา ก็เดินทางมายังหมู่บ้านโคโนฮะ เพื่อตามหาตัวนารูโตะ ซึ่งเป็นร่างสถิตของจิ้งจอกเก้าหาง หลังจากปะทะกับ คาคาซิ อาซึมะ และ ไก แล้วจึงรู้ว่านารูโตะไม่อยู่ที่หมู่บ้าน อิทาจิก็ออกเดินทางตามไปทันที ฝ่ายซาสึเกะเมื่อได้ทราบข่าวของอิทาจิ ก็ได้ออกเดินทางติดตามไป เพราะต้องการล้างแค้นที่อิทาจิสังหารบิดามารดา และสมาชิกในตระกูลอุจิวะจนหมด

นารูโตะและซาสึเกะได้มีโอกาสต่อสู้กับอิทาจิ แต่ก็พ่ายแพ้อย่างง่ายดาย โชคดีที่จิไรยะเข้ามาขัดขวางไว้ อิทาจิจึงลงมือไม่สำเร็จ จิไรยะได้ส่งซาสึเกะที่ได้รับบาดเจ็บกลับหมู่บ้าน จากนั้นได้สอนวิชากระสุนวงจักรให้กับนารูโตะ เพราะตระหนักถึงอันตรายจากกลุ่มแสงอุษาที่ต้องการสัตว์หาง

ต่อมานารูโตะและจิไรยะตามหาตัวซึนาเดะจนพบ ทีแรกเธอปฏิเสธที่จะเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านเพื่อรับตำแหน่งโฮคาเงะ ในขณะนั้นเองโอโรจิมารุก็มาหาซึนาเดะเช่นกัน เพื่อให้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บที่ได้รับจากการต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 แลกกับการคืนชีพคนรักและน้องชายของซึนาเดะให้ แต่ซึนาเดะปฏิเสธ จิไรยะและนารูโตะเข้าต่อสู้กับโอโรจิมารุและ คาบูโตะ จนล่าถอยกลับไป ด้วยความมุ่งมั่นของนารูโตะที่พยายามฝึกวิชากระสุนวงจักรจนสำเร็จขณะต่อสู้ กับคาบูโตะ ตามที่ให้สัญญาไว้กับซึนาเดะ และการยึดมั่นในวิถีนินจาของตัวเองของนารูโตะ จนทำให้เธอยอมรับตำแหน่งโฮคาเงะ

หลังจากซึนาเดะกลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะแล้ว ซาสึเกะรู้สึกไม่พอใจที่ฝีมือตนยังห่างชั้นจากอิทาจิอยู่มาก โอโรจิมารุจึงได้ใช้โอกาสนี้ยื่นข้อเสนอที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น หากเปลี่ยนมาเข้าสังกัดกับหมู่บ้านโอโตะ ซึ่งซาสึเกะก็ตกลง และยินยอมให้นินจาคนสนิทของโอโรจิมารุ ซึ่งมีอักขระต้องสาปทุกคนพาตัวไป โดยมีนารูโตะและนินจาของหมู่บ้านโคโนฮะติดตามไปยับยั้ง ทั้งยังมีนินจาของซึนะตามมาช่วยเหลือด้วย ท้ายสุดนารูโตะเข้าต่อสู้กับซาสึเกะที่หุบผาสิ้นสุด นารูโตะใช้พลังของจิ้งจอกเก้าหางออกมาจนมีหางงอกออกมา 1 หาง ส่วนซาสึเกะสามารถเบิกเนตรวงแหวนได้สมบูรณ์และใช้อักขระต้องสาปแปลงร่าง การปะทะกันของวิชากระสุนวงจักรและพันปักษานั้นรุนแรงมาก แต่แล้วนารูโตะก็ไม่สามารถยับยั้งซาสึเกะไว้ได้ ซึ่งเลือกที่จะเป็นนินจาถอนตัวและเดินทางไปหาโอโรจิมารุด้วยตัวเอง

โอโรจิมารุซึ่งต้องการร่างของซาสึเกะไปใช้เป็นร่างใหม่ของตนที่บาดเจ็บ อยู่ ทนรอร่างของซาสึเกะไม่ไหว และได้ย้ายวิญญาณสู่ร่างใหม่ก่อนที่ซาสึเกะจะเดินทางไปถึง ทำให้หากจะย้ายวิญญาณสู่ร่างของซาสึเกะก็ต้องรอเวลาอย่างน้อยอีก 3 ปี ซึ่งข่าวนี้จิไรยะก็ไปสืบหามาได้ ทำให้ทุกคนเบาใจและยอมละการติดตามซาสึเกะไว้ชั่วคราว ซากุระตัดสินใจที่จะเรียนวิชานินจาแพทย์จากซึนาเดะ ส่วนนารูโตะตัดสินใจติดตามจิไรยะเพื่อฝึกวิชา